ทำความรู้จักคีโน พร้อมวิธีการเล่นให้ได้กำไร
คีโน (Keno) คืออะไร
คีโน (Keno) นั้นก็คือเกมเดิมพันด้วยการสุ่มจับหมายเลขออกมา ใกล้เคียงกับการเล่นหวยที่หลายท่านต่างก็คุ้นเคยกันเป็นอย่างดี แต่มีความแตกต่างกันในเรื่องของการเลือกทายหมายเลขที่ผู้เล่นสามารถจะเลือกได้สูงถึง 20 หมายเลข ขึ้นอยู่กับเว็บพนันที่ผู้เล่นเลือกใช้บริการ และรูปแบบการเล่นก็คล้ายกับเกมบิงโกด้วยเช่นเดียวกัน ทำให้มีรูปแบบการวางเดิมพันที่หลากหลายกว่าการแทงหวยและมีความสนุกกับการลุ้นผู้ชนะของเกมเหมือนกำลังเล่นบิงโก โดยผลของหมายเลขที่ออกมานั้นจะเป็นการสุ่มทั้งหมด ดังนั้นผู้เล่นไม่ว่าจะเป็นมือใหม่หรือมือเก๋าทุกคนต่างก็มั่นใจได้เลยว่า มีโอกาสที่จะชนะเงินรางวัลจากการเล่นคีโนกันอย่างเท่าเทียมกันทุกคน
การเดิมพันคีโนนั้นจะเปิดให้ผู้เล่นได้เข้ามาร่วมสนุกกันได้วันละหลายๆรอบ ส่วนใหญ่จะมีการออกรางวัลกันทุกๆ 1-5 นาที แล้วแต่ทางคาสิโนออนไลน์นั้นจะกำหนดเอาไว้ จะเห็นได้ว่าการเดิมพันในแต่ละรอบนั้นใช้เวลาน้อยมาก ทำให้ผู้เล่นสามารถที่จะเข้ามาร่วมสนุกกันได้ตลอดทั้งวัน
สำหรับรูปแบบการเดิมพันของคีโนนั้นก็มีอยู่หลายแบบด้วยกัน หลักๆแล้วก็มีดังต่อไปนี้
1. รูปแบบ สูง–ต่ำ (Big-Small) ก็คือการทายผลรวมของหมายเลข 20 ตัว จะมีการสุ่มผลออกมาแล้วดูว่าแต้มรวมกันจะออกมาเป็นสูงหรือว่าต่ำ
– สูง (Big) แต้มรวมกันตั้งแต่ 811-1410
– ต่ำ (Small) แต้มรวมกันตั้งแต่ 210-809
2. รูปแบบ คี่–คู่ (Odd-Even) ก็คือการทายผลว่าผลรวมของหมายเลขทั้ง 20 ตัว ที่สุ่มออกมา เมื่อนำมารวมกันทั้งหมดแล้ว ออกมาเป็น เลขคู่ หรือ เลขคี่
– เลขคี่ (Odd) แต้มรวมออกมาเป็น เลขคี่
– เลขคู่ (Even) แต้มรวมออกมาเป็น เลขคู่
3. รูปแบบการทายผลรวม แถวบน แถวล่าง (Up-Down) ก็คือการทายผลว่าตัวเลขที่ทำการสุ่มออกมา จะอยู่ในแถวบนหรืออยู่ในแถวล่างมากกว่ากัน และยังมีโอกาสที่หมายเลขที่ออกมาจะอยู่ในสองแถวเท่าๆกันอีกด้วยซึ่งจะเรียกว่ากลาง (Tie) นั่นเอง ซึ่งผู้เล่นคีโนก็สามารถที่จะเลือกทายผลได้เช่นเดียวกัน
– แถวบน (Up) คือทายผลว่าหมายเลขที่ออกมาจะอยู่ในช่วง 1-40 มากกว่า
– แถวล่าง (Down) คือทายผลว่าหมายเลขที่ออกมาอยู่ในช่วง 41-80 มากกว่า
– กลาง (Tie) คือผลของหมายเลขที่ออกมาอยู่ในแถวบนและล่างเท่าๆกัน
4. รูปแบบเดิมพัน 5 ธาตุ (5 Elements) คือการเลือกทายผลว่า หมายเลขที่ทำการสุ่มออกมาทั้ง 20 ตัวนั้น เมื่อนำแต้มมาคิดรวมกันแล้ว ผลลัพธ์ที่ออกมาจะไปอยู่ในธาตุใด โดยจะแบ่งเป็นลำดับธาตุทั้งหมด 5 ชนิดด้วยกันดังนี้
– ธาตุทอง (Gold) ก็คือผลรวมมีค่าตั้งแต่ 210-695
– ธาตุไม้ (Wood) ก็คือผลรวมมีค่าตั้งแต่ 696-763
– ธาตุน้ำ (Water) ก็คือผลรวมมีค่าตั้งแต่ 764-855
– ธาตุไฟ (Fire) ก็คือผลรวมมีค่าตั้งแต่ 856-923
– ธาตุดิน (Earth) ก็คือผลรวมมีค่าตั้งแต่ 924-1410
นอกจากนี้การเล่นคีโนก็ยังมีรูปแบบการเดิมพันแบบอื่นๆอยู่อีกมากมาย ขึ้นอยู่กับแต่ละเว็บพนันที่จะเปิดให้บริการวางเดิมพันในรูปแบบใดบ้าง
เมื่อทราบรูปแบบของวิธีการเดิมพันคีโนแล้ว การที่จะเล่นให้ได้กำไรก็ไม่ใช่เรื่องที่ยากอีกต่อไป เนื่องจากมีรูปแบบการเดิมพันที่หลากหลาย ดังนั้นจึงถือเป็นโอกาสที่ดีที่ผู้เล่นจะได้มีสิทธิ์เลือกวางเดิมพันที่ครอบคลุมขึ้นในการเล่นแต่ละรอบ ผู้เล่นควรจะเลือกวางเดิมพันไว้หลายๆรูปแบบเพราะคีโนนั้นเปิดโอกาสให้ได้กำไรได้หลายช่องทางนั่นเอง